วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ต้นทุนค่าขนส่งประกอบไปด้วยอะไรบ้าง



งานบริการประเภทรับจ้างขนส่ง หรือ การขนส่งต่างๆ นับเป็นงานที่มีบทบาทเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ  ดังนั้นการจัดการ การขนส่งจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะด้านต้นทุน  
ต้นทุนการขนส่งประกอบไปด้วยปัจจัยต่างๆดังนี้
  1. ต้นทุนเริ่มต้น (Initial Cost) เป็นต้นทุนเริ่มต้น เช่น ค่ารถ  ค่าอุปกรณ์ประกอบการขับรถ เครื่องมือต่างๆ 
  2. ต้นทุนดำเนินการ(Operation cost) เป็นต้นทุนที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงการขนส่งไม่ว่ารถหรือพาหนะขนส่งจะเปลี่ยนแปลงปริมาณเท่าใด เช่น ค่าเช่าสถานที่  ค่าแรงที่คนขับรถ  เงินเดือนพนักงาน ภาษีรถ ค่าใช้จ่ายสำนักงาน และอื่นๆ
  3. ต้นทุนผันแปร (Running cost) เป็นต้นทุนที่มีการเปลี่ยนแปลง ตามปริมาณการขนส่ง เช่น ค่าน้ำมัน ค่าโสหุ้ย ค่าซ่อมแซมตามระยะทาง ค่าบำรุงรักษา เป็นต้น โดยเราจะเอาต้นทุนคงที่ รวมกับ ต้นทุนผันแปร จะเป็นต้นทุนรวม (Total cost)

    ในการจัดการการขนส่งจะมีการขนส่งทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ (Backhaul ) ซึ่งในแง่ของต้นทุนจะต้องคิดรวมทั้ง 2 เที่ยวนี้ไปด้วยกัน  ดังนั้น การคิดต้นทุนในแง่ของการเดินรถจะต้องคำนึงถึงปัจจัยดังนี้ 
    • ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการขนส่งเที่ยวเปล่า
    • ปริมาณหรือน้ำหนัก หรือ บางแห่งคิดตามปริมาตร ของสินค้า ที่บรรทุก
    • ระยะเวลาที่ใช้ในการขนถ่ายขึ้นและลงรวมถึง ระยะเวลาในการรอ (จะะท้อนมาที่ต้นทุนรวมของการขนส่งอีกหนนึง)
โปรแกรมบัญชี AccCloud.co ได้มี Function ของการขนส่ง เพื่อช่วยในการจัดรถขององค์กรให้สะดวกมากขึ้นโดยเชื่อมมาจากใบส่งของ  เลือกที่ ข้อมูลพื้นฐาน --> ระบบขาย --> ระบบขนส่ง --> การจัดรถขนส่ง  
โดยในโปรแกรมเราสามารถบันทึกต้นทุนขนส่งทั้งแยกตาม job หรือ ต้นทุนรวมก็ได้เช่นกัน

ที่มา www.acccloud.co

คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมคืออะไร

หากพูดถึง Computer ทุกคนคงรู้จักกันดีว่า คืออุปกรณ์ช่วยในการทำงานของมนุษย์ มีทั้ง PC Computer , Notebook Computer, Tablet Computer , Mobile และ อื่นๆ อีกสารพัด  ซึ่งการใช้งานก็จะเหมือนๆกันคือ ช่วยในการประมวลผลชุดคำสั่ง (Software) ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แต่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ทุกชนิดจะเหมาะกับงานทุกประเภท  เช่นหากเราเอา PC Computer หรือที่เรียกว่า Computer ตั้งโต๊ะ พกติดตัวไว้ใช้งาน  นี่ก็ไม่ใช่ละ เพราะขนาดของมันใหญ่โตเทอะทะ ไม่สะดวกต่อการพกติดตัว เราจึงจำเป็นต้องมี NoteBook Computer เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน  แต่Notebook computer ก็ยังจะไม่ทันเวลาหากเราต้องการใช้งานในทันที จึงเป็นที่มาของ Mobile Computer เช่นอุปกรณ์ Tablet  
ในภาคอุตสาหกรรมก็เช่นกันใน กระบวนการผลิตมักจะมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากสภาพแวดล้อมภายนอกเป็นอย่างมาก เช่นโรงงานเหล็ก โรงงานอลูมิเนียม มักจะเจอสภาวะร้อนจัดในระหว่างกระบวนการผลิต  หรือ โรงงานอาหารแช่แข็งมักจะเจอสภาวะเย็นจัด  ดังนั้นหากเอา Computer ไม่ว่าจะเป็น PC, Notebook, Table หรือ อะไรก็แล้วแต่ไปวาง  รับรองได้ครับ  ไม่เกิน 3 วัน พัง!!! 

แต่อย่างไรก็ดี หากเราต้องการควบคุมการทำงานในกระบวนการเหล่านี้ที่หน้างานเลย  เราก็ต้องมีอุปกรณ์ Computer ประเภทใช้ที่หน้างานเหล่านี้ได้  เราเรียกมันว่า "Panel PC" ครับ
Panel PC โดย Concepts แล้ว มันคือ Computer นี่แหล่ะครับ แต่ถูกออกแบบมาให้มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่สุดโหด เช่นร้อนจะ เย็นจัด มีฝุ่นละอองหนาแน่น มีความชื้นสูง เป็นต้น  
จะทำการต่อเชื่อมกับระบบ ERP ภายในองค์กรเพื่อควบคุมกระบวนการผลิตในกลุ่มของ Work In Process ครับ  
รายละเอียดของ PANEL PC เป็นอย่างไร เดี๋ยวผมจะมาอธิบายให้ทุกท่านฟังในครังถัดไปนะครับ

โปรแกรมบัญชี AccCloud.co ได้ทำการพัฒนาระบบเชื่อมต่อกับ Panel PC เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในด้านการผลิตได้อย่างครบวงจร เพื่อเก็บได้ถึงรายละเอียดในระหว่างการผลิต 

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561

4 ขั้นตอนการเปลี่ยนผ่านไปยังยุค Digital (Digital Transformation)

ท่านทั้งหลาย ในช่วงเวลานี้คงจะได้ยินแต่คำว่า 4.0  สี่จุดศูนย์ อยู่เป็นประจำจนคุ้นๆหู  ซึ่งเราก็ทราบเป็นอันดี (จากการโฆษณาประชาสัมพันธ์แล้วว่า อ่ะไรคือ 4.0  มันดีอย่างไร??)
แต่คราวนี้ประเด็นใหญ่ที่ ไม่ว่าสังคมไทย หรือ องค์กรใดๆ จะก้าวไปยังขั้นนั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ  
วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์การก้าวผ่านองคฺ์กรไปยัง 4.0 ให้ทุกท่านได้ทราบ
การที่ธุรกิจจะก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่สำคัญมี อยู่ 4 ปัจจัยหลักๆด้วยกันคือ 
1. คนในองค์กร
2. ลูกค้า
3. รูปแบบการปฏิบัติงาน
4. สินค้า/บริการ
ทั้งหมดจะมีการใช้เทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือเสริม ดังรูป



ในขั้นตอนแรกคือการเปลี่ยนแปลงคนในองค์กรนั้น เราต้องทำทางด้านปรับปรุงกรบวนการ/รูปแบบการทำงานไปให้อยู่ในทิศทางที่สอดคล้องกัน เช่นในยุค Information หรือข้อมูลข่าวสารนั้น  เราจะต้องให้ทุกคนในองค์กรสามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้อย่างคล่องตัว สามารถทำงานเชื่อมต่อกันผ่าน internet ได้โดยไม่มีข้อจำกัดที่ทำให้เกิดผลกระทบต่องาน 
เช่นเดียวกันกับสินค้าและ บริการที่จะต้องมีการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกับกระแสของเทคโนโลยี เช่น สินค้าเดิมเราคือ รับเหมาก่อสร้างบ้าน  ในการเปลี่ยนแปลงสินค้าใหม่ อาจจะเน้นว่าบ้านทุกหลังที่ก่อสร้างประหยัดพลังงาน และ สามารถเชื่อมโยงผ่านระบบ internet smart house ได้ในทุกๆบ้านเป็นต้น  
และเมื่อเราทำการเปลี่ยนแปลงทั้ง 3 ปัจจัยนี้แล้ว  ลูกค้าจะเปลี่ยนตามเราเองในที่สุด    

ในช่วงแรกของการเปลี่ยนแปลงผมแนะนำว่า อย่าสั่งให้กับผู้ปฏิบัติงานทำเพียงอย่างเดียว  เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ดี ต้องมาจากตัวผู้บริหารเอง และ การเปลี่ยนแปลง จะทำทีเดียวพร้อมๆกันหมด หรือจะ ค่อยๆทำก็ได้ แต่สำคัญคือมีการวางแผนและคอยประเมินอยู่ตลอดเวลา  


ที่มา www.acccloud.co

วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Artificial Intelligence (AI) สำหรับการทำบัญชีคืออะไร




ต้องยอมรับอย่างนึงในตอนนี้ว่า เรากำลังเข้าสู่ยุคของ AI หรือที่เราเรียกกันคุ้นๆหูว่า ยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์ คำว่าปัญญาประดิษฐ์โดย ปัญญาประดิษฐ์หมายถึงความฉลาดเทียมที่สร้างขึ้นให้กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต ปัญญาประดิษฐ์เป็นสาขาหนึ่งในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และวิศวกรรมเป็นหลัก แต่ยังรวมถึงศาสตร์ในด้านอื่น ๆ อย่างจิตวิทยา ปรัชญา หรือชีววิทยา ซึ่งสาขาปัญญาประดิษฐ์เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการการคิด การกระทำ การให้เหตุผล การปรับตัว หรือการอนุมาน และการทำงานของสมอง  
ในทุกวันนี้มีการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในหลากหลายทาง เช่นการทำนายเหตุการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต การคาดการณ์ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จากข้อมูลในอดีต (หรือที่เราเรียกว่าประสบการณ์) โดยใน AI จะเรียกหน่วยย่อยประสบการณ์ว่า Node ที่อยูใน Nueron 
การประยุกต์ใช้ AI ในงานด้านต่างๆมีดังนี้ 
1. งานด้านการแก้ปัญหา
2. งานด้านการแทนความรู้
3. ระบบผู้เชี่ยวชาญ
4. การวางแผนของเครื่อง
5. การเรียนรู้ของเครื่อง
6. การประมวลผลภาษาธรรมชาติ
7. การรับรู้ของเครื่อง

ในงานด้านการทำบัญชีโดยใช้ AI จะเป็นการประยุกต์ใช้ด้าน การเรียนรู้ของเครื่อง และ ระบบผู้เชี่ยวชาญซึ่งจะเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนการทำบัญชีด้วย AI 

ด้านการเรียนรู้ของเครื่อง หรือ Machine Learning จะเกิดขึ้นจากรายการทางบัญชีที่ทำทุกวัน ตัวเครื่องจะเก็บเป็นประสบการณ์ในการจัดทำบัญชี และ ช่วยในการบันทึกรายการต่างๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้น หรือ แม้กระทั่งตัดสินใจทำด้วยตัวของมันเอง ส่วนระบบ ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยการในการวิเคราะห์ตัดสินใจว่าธุรกิจที่ทำอยู่นี้ ทำได้ต่อไปได้หรือ ไม่ ถ้าทำได้ จะอยู่ได้นานแค่ไหนในตลาด

โปรแกรมบัญชี AccCloud.co ในปัจจุบันนี้ ได้เริ่มต้นการทดสอบระบบ AI ในโปรแกรมแล้ว  คาดว่าอีกไม่นานเกินรอ ผู้ใช้งานทุกรายจะสามารถใช้ระบบ AI เข้ามาช่วยในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ท่านจะเห็นความแตกต่างจากระบบบัญชีทั่วๆไปในตลาดอย่างเห็นได้ชัด


วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Artificial Intelligence (AI) สำหรับการทำบัญชีคืออะไร


ต้องยอมรับอย่างนึงในตอนนี้ว่า เรากำลังเข้าสู่ยุคของ AI หรือที่เราเรียกกันคุ้นๆหูว่า ยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์ คำว่าปัญญาประดิษฐ์โดย ปัญญาประดิษฐ์หมายถึงความฉลาดเทียมที่สร้างขึ้นให้กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต ปัญญาประดิษฐ์เป็นสาขาหนึ่งในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และวิศวกรรมเป็นหลัก แต่ยังรวมถึงศาสตร์ในด้านอื่น ๆ อย่างจิตวิทยา ปรัชญา หรือชีววิทยา ซึ่งสาขาปัญญาประดิษฐ์เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการการคิด การกระทำ การให้เหตุผล การปรับตัว หรือการอนุมาน และการทำงานของสมอง  
ในทุกวันนี้มีการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในหลากหลายทาง เช่นการทำนายเหตุการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต การคาดการณ์ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จากข้อมูลในอดีต (หรือที่เราเรียกว่าประสบการณ์) โดยใน AI จะเรียกหน่วยย่อยประสบการณ์ว่า Node ที่อยูใน Nueron 
การประยุกต์ใช้ AI ในงานด้านต่างๆมีดังนี้ 
1. งานด้านการแก้ปัญหา
2. งานด้านการแทนความรู้
3. ระบบผู้เชี่ยวชาญ
4. การวางแผนของเครื่อง
5. การเรียนรู้ของเครื่อง
6. การประมวลผลภาษาธรรมชาติ
7. การรับรู้ของเครื่อง

ในงานด้านการทำบัญชีโดยใช้ AI จะเป็นการประยุกต์ใช้ด้าน การเรียนรู้ของเครื่อง และ ระบบผู้เชี่ยวชาญซึ่งจะเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนการทำบัญชีด้วย AI 

ด้านการเรียนรู้ของเครื่อง หรือ Machine Learning จะเกิดขึ้นจากรายการทางบัญชีที่ทำทุกวัน ตัวเครื่องจะเก็บเป็นประสบการณ์ในการจัดทำบัญชี และ ช่วยในการบันทึกรายการต่างๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้น หรือ แม้กระทั่งตัดสินใจทำด้วยตัวของมันเอง ส่วนระบบ ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยการในการวิเคราะห์ตัดสินใจว่าธุรกิจที่ทำอยู่นี้ ทำได้ต่อไปได้หรือ ไม่ ถ้าทำได้ จะอยู่ได้นานแค่ไหนในตลาด

โปรแกรมบัญชี AccCloud.co ในปัจจุบันนี้ ได้เริ่มต้นการทดสอบระบบ AI ในโปรแกรมแล้ว  คาดว่าอีกไม่นานเกินรอ ผู้ใช้งานทุกรายจะสามารถใช้ระบบ AI เข้ามาช่วยในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ท่านจะเห็นความแตกต่างจากระบบบัญชีทั่วๆไปในตลาดอย่างเห็นได้ชัด


วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Artificial Intelligence (AI) สำหรับการทำบัญชีคืออะไร



ต้องยอมรับอย่างนึงในตอนนี้ว่า เรากำลังเข้าสู่ยุคของ AI หรือที่เราเรียกกันคุ้นๆหูว่า ยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์ คำว่าปัญญาประดิษฐ์โดย ปัญญาประดิษฐ์หมายถึงความฉลาดเทียมที่สร้างขึ้นให้กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต ปัญญาประดิษฐ์เป็นสาขาหนึ่งในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และวิศวกรรมเป็นหลัก แต่ยังรวมถึงศาสตร์ในด้านอื่น ๆ อย่างจิตวิทยา ปรัชญา หรือชีววิทยา ซึ่งสาขาปัญญาประดิษฐ์เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการการคิด การกระทำ การให้เหตุผล การปรับตัว หรือการอนุมาน และการทำงานของสมอง  
ในทุกวันนี้มีการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในหลากหลายทาง เช่นการทำนายเหตุการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต การคาดการณ์ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จากข้อมูลในอดีต (หรือที่เราเรียกว่าประสบการณ์) โดยใน AI จะเรียกหน่วยย่อยประสบการณ์ว่า Node ที่อยูใน Nueron 
การประยุกต์ใช้ AI ในงานด้านต่างๆมีดังนี้ 
1. งานด้านการแก้ปัญหา
2. งานด้านการแทนความรู้
3. ระบบผู้เชี่ยวชาญ
4. การวางแผนของเครื่อง
5. การเรียนรู้ของเครื่อง
6. การประมวลผลภาษาธรรมชาติ
7. การรับรู้ของเครื่อง

ในงานด้านการทำบัญชีโดยใช้ AI จะเป็นการประยุกต์ใช้ด้าน การเรียนรู้ของเครื่อง และ ระบบผู้เชี่ยวชาญซึ่งจะเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนการทำบัญชีด้วย AI 

ด้านการเรียนรู้ของเครื่อง หรือ Machine Learning จะเกิดขึ้นจากรายการทางบัญชีที่ทำทุกวัน ตัวเครื่องจะเก็บเป็นประสบการณ์ในการจัดทำบัญชี และ ช่วยในการบันทึกรายการต่างๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้น หรือ แม้กระทั่งตัดสินใจทำด้วยตัวของมันเอง ส่วนระบบ ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยการในการวิเคราะห์ตัดสินใจว่าธุรกิจที่ทำอยู่นี้ ทำได้ต่อไปได้หรือ ไม่ ถ้าทำได้ จะอยู่ได้นานแค่ไหนในตลาด

โปรแกรมบัญชี AccCloud.co ในปัจจุบันนี้ ได้เริ่มต้นการทดสอบระบบ AI ในโปรแกรมแล้ว  คาดว่าอีกไม่นานเกินรอ ผู้ใช้งานทุกรายจะสามารถใช้ระบบ AI เข้ามาช่วยในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ท่านจะเห็นความแตกต่างจากระบบบัญชีทั่วๆไปในตลาดอย่างเห็นได้ชัด


วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2561

งบกระแสเงินสดคืออะไร





คนที่ประกอบธุรกิจ ทุกคนคงน่าจะรู้จักกับสภาพที่ธุรกิจ กำไร มียอดขายมากมาย แต่ๆๆๆ ทำไม ไม่มีเงินจ่ายแม้กระทั่งพนักงาน???
เป็นเพราะคนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการมือใหม่ ยังเข้าใจผิดว่าเมื่อกิจการได้กำไร ยังไงซะเงินสดหมุดเวียนก็ไม่ขาดมือ ซึ่งเข้าใจผิดอย่างแรงเลย

อธิบายง่ายๆ เงินสดเปรียบเสมือน กระแสเลือด ส่วนกำไรเปรียบเสมือนสารอาหาร
คนเราขาดสารอาหารได้ แต่ขาดการหมุนเวียนของเลือดไม่ได้

กำไร ของธุรกิจมาจาก รายได้ - ค่าใช้จ่าย
รายได้จะอยู่ฝั่งเครดิต ของทางบัญชีซึ่งเกิดจาก สองส่วนคือ การเพิ่มขึ้นของลูกหนี้การค้า หรือ การเพิ่มขึ้นของเงินสด ซึ่งอยู่ฝั่งเดบิต
ส่วนค่าใช้จ่าย จะอยู่ฝั่งเดบิต แปลว่ามันเพิ่มขึ้น ซึ่งแบ่งง่ายๆ คือ เป็นต้นทุน ที่ในอนาคตจะไปเกิดเป็นรายได้ หรือ เป็นค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองที่หมดไปแต่ละเดือน
คราวนี้ลองคิดดูว่า สมมติขายของได้ เยอะแยะเลยนะ แต่ๆๆๆ ให้เครดิตลูกหนี้ 30 วัน แปลว่า ในช่วง 30 วันนี้มีแต่ตัวเลข รายรับ แต่ไม่เห็นเงิน เรามียอดขายลูกหนี้อาจไม่ใช่เงินสดที่เข้ามา ซึ่งเป็นปกติมากในการขายใน Volume ที่มากๆ
หากเราบริหารจัดการเรื่องการติดตามหนี้ไม่ดี สิ่งที่ตามมาคือ การขาดเงินสดในมือ (เงินสดฝืด) แต่ว่า ค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นตลอดเวลาเช่น ค่าเงินเดือน ค่าสาธาณูปโภค ค่าดอกเบี้ยจ่าย และ อื่นๆ
แล้ว ปัจจัยของกระแสเงินสดล่ะมาจากไหน ดูง่ายๆคือ
ถ้าลูกหนี้ลดลง เงินสดเพิ่มขึ้น (เก็บเงินลูกค้าได้)
ถ้าสินค้าคงคลังลดลง เงินสดเพิ่มขึ้น (ขายของออก)
ถ้าเงินกู้เพิ่มขึ้น เงินสดเพิ่มขึ้น (ไปกู้ธนาคารมา)
ถ้าเจ้าหนี้ ลดลง เงินสดลดลง (ไปจ่ายเงินเจ้าหนี้)
ถ้าสัดส่วนหุ่นเพิ่มขึ้น เงินสดลดลง (เอาเงินไปซื้อหุ้น)
พูดง่ายๆ ถ้าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น เงินลด ถ้าหนี้สินเพิ่มขึ้น เงินสดเพิ่ม ถ้าทุนลด เงินสดลด
ด้วยปัจจัยนี้แหร่ะ ผู้ประกอบการมือใหม่มักพลาดตรง ไปเน้นว่าต้องมีกระแสเงินสดในการดำเนินการโดยไปเน้นผิดฝั่งคือฝั่งหนี้สิน ทำให้ไม่ว่าธุรกิจจะกำไรยังไง ในแต่ละเดือนก็ยังปวดหัวกับกระแสเงินสดอยู่ดี

ดังนั้น ก่อนจะมาเป็นผู้ประกอบการ ขอแนะนำและเน้นเป็นอย่างยิ่งเลยว่า ไปศึกษาบัญชีให้แน่นๆเสียก่อน และวางแผนด้านการเงินและการงานให้ดีๆนะครับ แล้วค่อยลงมือ
มีฟังก์ชั่นงบกระแสเงินสดให้กับผู้ใช้งานสามารถเรียกมาดูได้ตลอดเวลา  ดังนั้นผู้ใช้งานเพียงแค่เรียกรายงานงบกระแสเงินสดเท่านั้น ก็จะสามารถทราบสถานะการเงินของกิจการได้ง่ายๆแล้ว  นอกจากนั้นด้วยความที่เป็น Web Application ผู้ใช้งานสามารถดูงบกระแสเงินสดผ่านมือถือ หรือ Tablet และ สามารถตัดสินใจทางการเงินได้ตลอดเวลา


ที่มา www.acccloud.co